Latest Post

บาคาร่าออนไลน์เว็บตรง ข่าวตลาดซื้อขายนักเตะวันที่ 2 มิถุนายน แมนยู ยื่น แมคไกวร์ แลก เมานท์,

รับประทานยาแก้ เจ็บท้องเมนส์” เสมอๆอันตรายไหม?

โดยปกติลักษณะของการปวดรอบเดือน สุขภาพ มักกำเนิด 1-2 วันก่อนมีระดู หรือบางทีอาจเกิดขึ้นในวันที่มีเมนส์ก็ได้ ซึ่งการเกิดอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เกี่ยวกับสารกระตุ้นการอักเสบ พลอสตามึงลุกลนดิน” (Prostaglandin) ซึ่งมีการเล่าเรียนพบว่า ในเลือดรอบเดือนของหญิงที่มีลักษณะปวดระดู มีสารจำพวกนี้สูงขึ้นมากยิ่งกว่าหญิงที่ไม่มีลักษณะของการปวดถึง เท่า
นอกเหนือจากที่จะทำให้มีการเกิดการอักเสบแล้ว ยังส่งผลทำให้กล้ามมดลูกบีบตัวมากยิ่งกว่าธรรมดา ก็เลยทำให้มีลักษณะอาการเจ็บท้องขณะมีระดู และก็บางทีอาจลุกลามไปที่เอวข้างหลัง ต้นขา หรือในบางบุคคลอาจมีอาการอ้วก คลื่นไส้ ท้องร่วง แล้วก็อ่อนแรงร่วมด้วย ดังนี้เมื่อใดที่ผู้หญิงมีลักษณะอาการเจ็บท้องเมนส์ ก็จะมีความคุ้นเคยว่าต้องไปซื้อยามากิน เพื่อทุเลาลักษณะของการปวดให้ดียิ่งขึ้น

ยาที่ผู้หญิงรู้จักดีโดยมีชื่อเชิงพาณิชย์ที่หลายๆคนรู้จักเป็น พอนสแตน” (Ponstan) มีคุณลักษณะเป็นยาต่อต้านการอักเสบ รวมทั้งทุเลาปวดระดับน้อยไปจนกระทั่งระดับปานกลาง ดังเช่น ปวดฟันข้างหลังผ่าตัด ปวดระดู ปวดกระดูก แล้วก็ปวดจากโรคข้อบางประเภท นอกเหนือจากนั้นยังคงใช้ลดลักษณะของการมีไข้ได้ด้วย

แม้ถามคำถามว่ารับประทานพอนสแตนทุกหน เมื่อเจ็บท้องรอบเดือนจะทำให้เป็นอันตรายไหม ขอบอกเลยว่าถ้าเกิดรับประทานอย่างสม่ำเสมอแล้วก็เกินจำนวนย่อมส่งผลใกล้กันแน่ๆ ด้วยเหตุนี้สำหรับคนแก่ขนาดสูงสุดที่กิน เป็นไม่สมควรเกิน 500 มก.ต่อครั้ง และไม่เกิน ครั้งต่อวัน ลักษณะของการปวดทั่วๆไปไม่สมควรกินยาต่อเนื่องกันเกิน วัน

สุขภาพ

แต่ว่าถ้าเกิดรับประทานเฉพาะที่มีลักษณะอาการปวดในจำนวนรวมทั้งปริมาณวันไม่เกินที่ระบุ การกินยาพาราท้องเมนส์ทุกเดือนมิได้ส่งผลอันตรายอะไรกับร่างกาย (ถ้าร่างกายธรรมดาดี ไม่มีโรคประจำตัว)

ผลกระทบที่เกิดจากการกินยาพาราระดูอย่างสม่ำเสมอ
ด้านผลเคียงของการได้รับยานี้โดยตลอด อาจจะเป็นผลให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดแตก (เลือดก็เลยออกได้ง่ายและก็หยุดยากโลหิตจาง ภาวการณ์ซีดเผือด ระคายในท้อง ท้องผูก บางบุคคลก็ท้องร่วง กำเนิดแผลในกระเพาะแล้วก็ไส้ ผิวหนังบวม โรคหอบหืด ปวดหัว อยากนอน อารมณ์เสีย หรืออันตรายถึงขั้นเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

นอกนั้นยังอาจจะก่อให้กำเนิดภาวะความดันโลหิตสูง ใจสั่น ผื่นคัน ภาวการณ์ตับแล้วก็ไตดำเนินการไม่ปกติได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือโรคไต คนไข้ที่เป็นโรคเลือดจำพวกต่างๆยกตัวอย่างเช่น โรคเกล็ดเลือดต่ำ สตรีที่ตั้งท้องหรืออยู่ในตอนให้นมลูก รวมทั้งคนที่ผ่าตัดเส้นโลหิตที่ศีรษะจิตใจ ผู้เจ็บป่วยโรคหัวใจ ควรจะหลบหลีกการใช้ยานี้